ทบทวน

รามือจากคอลัมน์ที่เขียนไม่เสร็จมานั่งรำลึกและทบทวนระยะเวลาสามร้อยกว่าวันที่ผ่านมาก่อนจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

แม้ปีนี้อาจไม่ใช่ปีที่เราจะบอกว่าชอบ
แต่จะให้บอกว่าไม่ชอบหรือเกลียดก็คงไม่ใช่เข้าไปใหญ่
พออายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ความรู้สึกตรงกลางมันจะมากขึ้นตามไปด้วย เราคิดว่าอย่างนั้นนะ ไม่ค่อยเกลียดหรือรักอะไรจริง ๆ จัง ๆ จนต้องจัดอันดับ หรือแสดงความรู้สึกให้ชัดเจนขนาดนั้นแล้วเพราะมันไม่ค่อยเกิดประโยชน์อะไรเท่าไรหรอก แค่มานั่งดูว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นและเราจัดการมันอย่างไรเท่านั้นพอ

สำหรับปี 2559 เป็นปีที่เราได้ทะลายกำแพงความกลัวของตัวเองสำเร็จ มีงานมาเสนอให้ทำซึ่งเราก็รับปากและทำใจให้สู้กับหน้าที่และความรับผิดชอบนั้นและมันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าเป็นเราคนก่อนก็คงไม่ตกปากรับคำ แม้จะมีอีกหลายครั้งที่ปฏิเสธไป แต่ครั้งนี้เราดีใจจริง ๆ ที่เราตอบรับและทำมันจนสำเร็จ แม้จะขัดใจตัวเอง แม้จะหงุดหงิดกับความไม่ราบรื่นบ้าง แต่โดยรวมแล้วเราภูมิใจในตัวเองมากอยู่เหมือนกัน

นอกจากเอาชนะความขี้ขลาดหวาดกลัวได้แล้ว ปีนี้เรายังปลดหนี้ได้สำเร็จไปหนึ่งเจ้าหนี้ นั่นคือ บัตรเครดิต เราไม่ค่อยก่นด่าอะไรนัก นอกจากก้มหน้ารับใช้หนี้ไปเพราะเราทำเอง เป็นหนี้แห่งกิเลศที่ยาวนาน นานจนทำให้มีสติกับการใช้บัตรเครดิตมากขึ้น ส่วนหนี้กยศ.ปีนี้ก็โปะไปหลายหมื่นบาท จนตอนนี้ยอดหนี้เหลือไม่มากแล้ว คิดว่าปีหน้าจะจัดการให้หมด การปลดหนี้เป็นความดีใจส่วนตัว ทำให้เราอดทนและทนอดต่อความต้องการ การไม่มีเงินมากพอจะไปชอปปิงทำให้เราชอบมากกว่าตอนมีเงินแล้วชอปอย่างขาดสติซะอีก เหมือนเป็นชัยชนะเล็ก ๆ ของคนจนที่ของเซลก็ทำอะไรเราไม่ค่อยได้เพราะต่อให้ชอบหรืออยากได้ก็ไม่มีเงินซื้ออยู่ดี มันดีตรงนี้แหละ

ปีนี้ยังเป็นปีที่เราตามใจตัวเองน้อยด้วยนะ
อย่างที่บอกว่าพอไม่ค่อยเหลือเงินเพราะต้องเก็บไปใช้หนี้แล้วทำให้เงินที่มีในมือเอาไว้กินและใช้จ่ายในเรื่องจำเป็นเท่านั้น อยากได้หนังสือ อยากซื้อเสื้อผ้า อยากไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ก็ทำให้เป็นเพียงความอยากเท่านั้น แต่ไม่ได้รู้สึกทรมาณกับการจำกัดความต้องการของตัวเองนะ เราโอเคกับมัน

แม้จะโสดและไม่ได้เจอใครเลย
แต่ปีนี้ก็ยังได้ ‘คุย ๆ’ กับใครบางคนอยู่บ้าง
แม้เป็นการเริ่มศึกษาพูดคุยกันแค่ไม่กี่เดือนแต่มันก็เติมความชุ่มชื่นให้หัวใจดีนะ
สุดท้ายแม้เราจะรู้ว่าไม่รอด แต่ดีใจที่เราพยายามเปิดใจ ทั้งที่ถ้าเป็นเราคนก่อน ลงว่าถ้าไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบก่อน การที่อยู่ ๆ จะให้ลองทำความรู้จักใครสักคนคงไม่เกิดขึ้นหรอก

แหม…ปีนี้มันสร้างตัวตนใหม่จริง ๆ นะ
แต่ยังไงก็หนีตัวตนที่แท้ของเราไม่ได้หรอก

ส่วนเรื่องที่สะเทือนชีวิตมากที่สุดเห็นจะเป็นการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลทีี 9 เป็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตเราแม้ในความเป็นจริงจะรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องเจ็บ แก่ และตายได้ แต่เรารู้สึกว่าพระองค์ต้องอยู่กับเราไปอีกนาน นานจนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

การสูญเสียในหลวง แน่นอนเราทุกคนต่างเสียใจ
แต่มันเป็นความสูญเสียที่มีพลังมาก ๆ สิ่งที่พระองค์ทำ สิ่งที่พระองค์เป็น จึงทำให้การสูญเสียครั้งนี้ไม่เป็นศูนย์ สิ่งที่พระองค์คิดและทำมาตลอดยังผลิดอกออกใบ เป็นมรดกที่ทำให้พวกเรามีหวัง เหมือนพระองค์จุดแสงไว้ให้เราเดินต่อ ไม่มืดมนอย่างที่เคยคิด พระองค์ยังอยู่ในใจเราจนถึงทุกวันนี้และไม่มีวันที่ใครจะมาแทนที่ได้ เป็นความรู้สึกที่ทั้งดีใจ ภาคภูมิใจ ปลาบปลื้มที่ได้เกิดในแผ่นดินของพระองค์ นี่ละมั้งเลยทำให้เราเสียใจแบบพอดี ๆ คือฟูมฟายอยู่คนเดียวช่วงหนึ่งแต่ไม่เสียสติ ไม่คลั่ง การที่มีโอกาสได้รู้ ได้เห็น สิ่งที่พระองค์สร้างมามากขึ้น ทำให้รักและเคารพพระองค์มากขึ้น เหมือนมีเรื่องให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับพระองค์ไม่สิ้นสุด

เท่าที่พิมพ์มาเหมือนไม่มีเรื่องแย่ ๆ เลยเนอะ
จริง ๆ ปีนี้ของเราก็มีเรื่องให้เสียใจ ร้องห่มร้องไห้นั่นแหละ
เป็นเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ แต่ปลงได้เร็ว หาวิธีหยุดร้องไห้ หยุดเสียใจได้เร็ว
พอเหตุการณ์มันผ่านไปมันก็แค่เกิดขึ้น แต่เรายังต้องหายใจอยู่

ดังนั้น ถ้าจะให้สรุปเกี่ยวกับปีนี้ของเรา
เราคิดว่ามันเป็นปีที่โตขึ้นอีกปี อีคิวสูงขึ้นอีกนิดจากที่เป็นคนอีคิวต่ำมาก ๆ
และเราเป็นคนที่รอดชีวิตที่พยายามใช้ชีวิตต่อไป ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่แย่มาก และพยายามประคับประคองตัวเองไม่ไปสร้างความเดือนเนื้อร้อนใจให้คนอื่น พยายามอย่างที่พยายามมาตลอด เป็นพลเมืองดีที่พยายามไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่มีเรื่องกับใคร ไม่วุ่นวายชีวิตใครถ้าเขาไม่อนุญาต อยู่ในถ้ำในพื้นที่ของเรา ถ้าใครต้องการเราเขาจะเคาะเรียกเราแล้วเราจะออกไป ถ้าใครไม่ต้องการก็ช่างเขา เราต้องการตัวเราก็อาจจะพอ

ขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเราในปี 2559
จะเกี่ยวข้องในเรื่องทุกข์ สุข ตลก ขำขัน สนุกสนาน เรื่องแบบไหนอะไรก็ตาม มันคือบทเรียน มันคือความทรงจำที่ทำให้เราขัดเกลาตัวเองได้

ด้วยคำที่บอกว่าเราจะมาพบกันใหม่,
เจอกันนะปี 2560