ร้าย

“ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับเรา”
มันคงเป็นคำถามที่ไม่ได้ถามตัวเองบ่อยๆ
เพราะหากเกิดเรื่องเกิดราวอะไรขึ้นมาสิ่งที่มนุษย์สามัญอย่างเราพอจะทำได้คือ แก้ปัญหา และ อยู่กับปัญหา

แต่ถ้าบางเรื่องมันเกิดซ้ำ
และมันรุนแรงต่อความรู้สึก รุนแรงต่อวิธีมองโลก รุนแรงต่อขวัญของชีวิต
มันก็อาจทำให้เราต้องตั้งคำถามแบบนี้ซ้ำไปซ้ำไป

รู้ดีว่าถามไปก็ไม่ได้คำตอบ
และจมอยู่กับคำถามที่ไร้คำตอบแบบนี้ดูจะไม่ก่อประโยชน์ใด
แต่…เมื่ออยู่นิ่งๆ พยายามปรับใจให้คืนสมดุลย์ พยายามเรียกสติกลับมา และหาหนทางแก้ปัญหาแล้ว
สิ่งที่ค้างคาใจก็ยังเป็นคำถามที่ว่า “ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดกับเรา…อีก”

การที่คนๆ หนึ่งไม่ทำร้ายใคร
ไม่ได้หมายความจะไม่โดนปองร้าย

การที่คนๆ หนึ่งแค่มีชีวิตไปวันๆ
ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะราบเรียบไปอย่างใจต้องการ

เหตุการณ์รุนแรงบางอย่างที่สั่นสะเทือนความเชื่อ ความต้องการ ความรู้สึก มันคือเนื้อร้าย
แต่สิ่งที่มันร้ายกว่าเนื้อร้ายที่เราอยากเฉือนทิ้งให้สิ้นซาก คือ ใจคน

ใจของคนไม่อาจคาดเดา
และเป็นสิ่งเลวร้าย เพราะหากไม่คิด ไม่เกิดจากข้างในใจ การกระทำทุกอย่างจะไม่เกิด
การที่เรามีคนใจร้ายๆ อยู่ใกล้ตัว อยู่รอบตัว…มันทำให้เราไม่รู้สึกอุ่นใจอีกต่อไป
เพราะเราคาดเดาไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา…อีก

เรื่องร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำสอง
มันทำให้เรากลัว ทำให้เราสั่น ทำให้เราผวา ทำให้เราน้ำตานอง
คนที่ทำเรื่องแบบนี้ไม่ใช่อื่นใดนอกจาก…คนร้าย

คนร้ายๆ ที่ทำให้เราต้องจำใจเลือก จำใจต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต
คนร้ายๆ ที่ปล้นชีวิตเดิมๆ ที่เหมาะ ที่เราเลือก เราชอบแล้วไป
คนร้ายๆ ที่เราไม่เต็มใจให้เข้ามาในชีวิต แต่เราก็เลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว

เราขออโหสิกรรมให้จิตใจเลวร้ายเหล่านี้
เพราะเราไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้แล้ว
ถ้าเราไม่ตัดเนื้อร้ายที่กัดกินก้อนใจเราออกเสีย เราก็จะดำเนินชีวิตไม่ได้เลย

ความกลัวยังอยู่
แต่ความหวังก็ยังอยู่
และ…คำถามก็ยังดังวนเวียนอยู่ในหัวโดยไร้คำตอบเช่นเดิม
“ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับเรา”