ย้อนวัน

หลายวันก่อนก่อนจะกลับมาประจำการที่กรุงเทพ
ฉันไปรับหลานชายที่โรงเรียน

ตอนเย็นหลังเลิกเรียนมีแต่ความวุ่นวาย
รถติดหน้าโรงเรียน ผู้ปกครองรอรับลูกหลาน เด็กๆ วิ่งเล่น
ยืนมองภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าอยู่เงียบๆ แล้วก็อดย้อนนึกไปในวันเก่าๆ ไม่ได้

ฉันเห็นตัวเองนั่งร้องเพลงที่แต่งเองเพลงแล้วเพลงเล่า
ฉันเห็นตัวเองเอาไม้แบดมาตีลูกเทนนิสกระทบผนังบ้านอา
ฉันเห็นตัวเองเดินเข้าไปในป่าใกล้บ้าน ทำทีเหมือนหลงป่า ผจญภัย
ฉันเห็นตัวเองตื่นแต่เช้ามืดไปที่ไร่มะลิเพื่อนบ้านเพื่อเก็บมันก่อนไปเรียน
ฉันเห็นตัวเองเล่นลูกแก้ว เล่นตี่จับ เล่นเตยกับญาติๆ และเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน

ฉันมองเห็นตัวเองผ่านหลายเหตุการณ์ในวันเก่าๆ
บางเหตุการณ์ก็ทำคนเดียว อยู่ลำพัง บางครั้งก็มีผู้คนมากมาย

ฉันเป็นเด็กนิ่งๆ เฉยๆ ชอบอยู่คนเดียว
แต่ไม่ชอบใจที่ไม่มีคนสนใจ หรือไม่มีใครเหลียวแล
เป็นเด็กเครียดๆ แต่มีมุมสนุกสนาน ชอบหัวเราะ อยากเป็นคนตลก
เพราะคิดว่าคนตลกใครๆ ก็จะเข้าหา

อยากเข้าสังคมแต่ก็กลัวสังคม
อยากเป็นคนเด่นแต่ก็กลัวการเป็นจุดเด่น
เรียกว่าเป็นเด็กที่สับสนในความต้องการของตัวเองเหมือนกันนะ
และอาจจะเพราะแบบนี้ฉันเลยเป็นเด็กที่จิตนาการสูงลิ่วเอาการไม่แพ้ใคร

ถ้าอยู่คนเดียว
ฉันจะร้องเพลงที่แต่งเองสดๆ
ฉันจะสมมติตัวเองเป็นคนอื่นแล้วนั่งคุยกันกับฉัน
ฉันจะอ่านหนังสือ ฉันจะนอนเปล ฉันจะเขียนหนังสือ
ฉันจะคิดนั่นคิดนี่ คิดเยอะเต็มไปหมด ใครว่าเด็กไม่รู้เรื่อง คิดไม่ได้คิดไม่เป็นนี่ไม่จริงเลย

มองย้อนไปแล้วนึกชื่นชมตัวเองอยู่เหมือนกันนะ
คือ ฉันคิดว่าฉันเป็นเด็กที่รักดีพอสมควร
ไม่ดื้อ ไม่อ้อน รู้ว่าสถานการณ์ที่บ้าน สถานภาพของตัวเองเป็นยังไง
ถึงเรียกร้อง อ้อนวอน อยากได้อยากมีอะไรมันก็ไม่เกิดขึ้นจริง
ฉันเลยพยายามทำตัวให้ไม่เป็นปัญหากับแม่ รับผิดชอบตัวเองได้ตั้งแต่เล็ก
อันนี้ก็ต้องขอบคุณแม่ด้วยที่ไม่ทำให้ฉันเป็นเด็กมีปัญหา แม้ว่าจะเก็บกด

ถึงแม้ว่าปมในใจของเด็กหญิงเจี๊ยบจะเยอะ
แต่โชคดีที่ได้ใกล้ชิดแม่เลยรู้ว่าทำอะไรถึงจะดีเลยพอจะเป็นผู้เป็นคนในทุกวันนี้

ใจความมันอยู่ตรงนี้แหละ
เด็กรู้เรื่องทุกอย่าง เข้าใจในสิ่งที่เห็น
แต่ผู้ใหญ่มักไม่สนใจเด็ก ไม่เข้าใจเด็ก คิดว่าเด็กไม่มีหัวใจ ไม่มีความคิด
เด็กคิดได้ เด็กคิดเป็น เด็กคิดเยอะ และถ้าเยอะมากๆ อาจระเบิด

ขอให้ประคับประคองหัวใจของเด็กด้วยความรัก ความระมัดระวัง
อย่าให้เด็กสรุปไปเองโดยไม่มีคำตอบ โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องล่อแหลมต่อการใช้ชีวิตในอนาคต

วันเด็กไม่ใช่เรื่องเด็กๆ ที่เกี่ยวกับเด็ก
แต่มันสะท้อนถึงผู้ใหญ่โดยตรงในการให้ความสำคัญกับเด็ก
ผู้ปกครองควรทำให้ทุกวันเป็นวันเด็กแห่งครอบครัว เพราะเด็กพร้อมจะสดใสเสมอถ้ามีคนมองเห็น

อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน

คนทำงานอย่างเราๆ
สิ่งที่ดีที่สุดก็คือทำงานของเราไป

ไม่ว่าคุณจะรักงานที่ทำหรือไม่
ถ้าคุณเลือกแล้วก็จงรับผิดชอบงานนั้นให้เต็มที่

คุณอาจจะมีคำถามว่าทำแล้วได้อะไร
มันไม่มีคำตอบหรอก

คุณค่าของงานอยู่ที่การลงมือทำ
ใจความของงานอยู่ที่ความพยายามและความทุ่มเทอย่างสุดกำลังแรงใจของคนทำงาน
อาจไม่มีผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ อาจไม่มีคนมองเห็น แต่คุณจะรู้ได้เองว่ามันสุดหรือยัง
ถ้าถึงที่สุดแล้วมันยังออกมาไม่ดี ก็แก้ตัวในงานต่อไป

คุณค่าของคนอาจไม่ได้อยู่ที่ผลของงาน
แต่ผลของงานเป็นตัวบ่งชี้ว่าเจ้าของผลงานเต็มที่แค่ไหน

live for today

The Secret Life of Walter Mitty
ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วราวกับ วอลเตอร์มิตตี้, ฌอน โอ คอนเนลล์ และตัวละครอื่นๆ
กระซิบบอกความลับสำคัญกับเราว่า

“อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน
และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด”

ลมพัดไผ่

ปีใหม่ของฉันจริงๆ คงเริ่มวันนี้
แม้จะผ่านปี 2557 มาเกือบสิบวันแล้วก็ตาม

ช่วงก่อนหมดปีเก่า
ฉันหอบเสื้อผ้าข้าวของกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดและอยู่ที่นั่นจนล่วงเข้าปีใหม่
ใช้ชีวิตในแต่ละวันไม่ต่างอะไรกับตอนที่อยู่กรุงเทพนัก
คือ ตื่นนอน กินข้าว เล่นเน็ต วนเวียนอยู่อย่างนี้ แต่ที่ต่างและดีกว่าคือ ไม่ได้อยู่คนเดียว
ใช้เวลาร่วมกับคนในบ้าน ไม่ใช่อยู่กับแต่ตัวเอง

การกลับบ้านก็เหมือนการหยุดเวลา
ทั้งที่วันเวลาก็ไม่เคยหยุดเดินจริงๆ สักหน่อย แต่ความรู้สึกมันเป็นอย่างนั้น

วันนี้ที่ต้องตื่นมาในห้องคนเดียว กินข้าวคนเดียว ทำอะไรๆ คนเดียว
มันเหมือนฉันได้กดปุ่มเริ่มทำงานเวลาชีวิตของฉันอีกครั้ง
แต่เป็นการเริ่มต้นปีที่รู้สึกโหวงๆ เคว้งๆ

ไม่มีแผนการ ไม่มีกำหนดการอะไรในปีนี้
ไม่มีความหวัง หรือความคาดหวังอะไร
แค่ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ

ยังไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะมาหรือกำลังจะไป
ไม่รู้จริงๆ

ได้ยินแค่เสียงลมพัดจนใบและต้นของไผ่เสียดสีกัน
มันเป็นเสียงที่สงบ เป็นเสียงที่ฉันอยากหลับตาและจมอยู่กับมัน
แม้จะไม่รู้ว่าลมจะหมดเมื่อไร,
แต่รู้ว่าลมต้องพัดมาในอีกไม่นาน

bamboo