มื้อแรก

ก่อนหน้านี้,
ชีวิตง่ายๆ อันเป็นปกติที่ทำมาโดยตลอดก็คือ กินข้าวปลาวันละสองมื้อหลัก
นั่นคืออ กินมื้อเช้าควบกลางวัน และมื้อเย็น

ซึ่งก็ไม่ได้จะส่งผลร้ายอะไรมากมายกับชีวิต และเป็นความเคยชินที่ไม่ได้คิดจะปรับปรุง นอกเสียจากว่าถ้ากลับบ้านครั้งใดก็จะตื่นเช้ามากินข้าวเช้าด้วย และจะกินข้าวให้ครบทั้งสามมื้อ เพราะอาหารที่ย่าทำให้กินมันอร่อยกว่าที่ซื้อเขากินทั่วไป และเพราะได้กลับบ้านเมื่อครั้งล่าสุดที่แหล่ะ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับชีวิตเรา

ญาติๆ ตกใจที่เราผอมไปมาก
ตกใจกันจนเราตกใจไปด้วย
ที่พูดอย่างนั้นก็เพราะเรารู้ว่าเราผอม น้ำหนักลงทุกเดือน หมอได้เตือนเราแล้วว่ายาที่กินอยู่มันจะทำใ้ห้ไม่เจริญอาหารนัก ประกอบกับเบื่ออาหารแถวๆ อพาร์ตเม้นท์ด้วย ทำให้เรากินได้น้อยลง เดาว่ากระเพราะอาหารเลยหดตามไปด้วย กินอะไรนิดเดียวก็อิ่มซะละ แต่ก็เห็นหน้าตัวเองอยู่ทุกวัน เลยไม่ได้ตกใจกับแก้มที่ตอบ แขนที่เล็กลง กระดูกที่โผล่ตรงนั้นตรงนี้ชัดขึ้น

แต่คนที่บ้านนานๆ จะเจอเราที,
พอเจอสักทีเลยตกใจยกใหญ่ เป็นห่วงเป็นใยกลัวเราจะอดตาย
แถมยังกระแดะไม่ทำงานประจำอีกแน่ะ เลยเหมือนปนกันไประหว่างผอมเพราะจนและเพราะโรค

ก่อนกลับกรุงเทพ
ญาติๆ และย่าเลยให้ตังค์มาซื้อกระทะไฟฟ้าเอาไว้ทำโน่นนี่กิน
แถมยังให้เราหอบเสบียงเล็กๆ น้อยๆ ติดมาด้วยแน่ะ

เมื่อวานได้ฤกษ์ไปซื้อกระทะมา
รู้สึกตื่นเต้นมากๆ

ดังนั้น,
มื้อเช้าของวันนี้จึงมิได้มีเพียงน้ำส้มที่คั้นเอง
แต่มีไข่ดาว และของทอดง่ายๆ ตามมาเป็นเพื่อนด้วย
อาจไม่ได้อิ่มท้อง หนักท้องอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยก็ได้กินมื้อเช้าเป็นมื้อแรก
น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีไม่ใช่เหรอ?

ไม่รู้ว่าเราจะเลิกเห่อกระทะ และมื้อเช้าหรือเปล่า
แต่อย่างน้อยจะบอกตัวเองว่าทอดไข่ดาวสักวันละฟองสองฟองก็ยังดีใช่มั้ยล่ะ?